แชมป์อาเซียน ที่ปลุกศรัทธาบอลไทย

 แชมป์อาเซียน ที่ปลุกศรัทธาบอลไทย



ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ AFF SUZUKI CUP ในครั้งนี้ ทุกคนต่างรู้ดีว่าผลงานทีมชาติไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมายังไม่สามารถมีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันมากเท่าที่ควร หลายๆคนดูแล้วรู้สึกว่าเหมือนเรากำลังหยุดอยู่กับที่ไม่พัฒนาไปไกลมากกว่านี้อีกแล้ว ทั้งๆที่ลีกบ้านเราก็เหมือนจะบูมขึ้นในทุกๆปี แต่ผลงานของทีมชาติไม่ได้ดีขึ้นไปด้วย ความคาดหวังต่างๆกับทีมชาติก็ไม่เป็นอย่างที่หวัง ทั้งการดึงเอายอดโค้ชอย่าง อากิระ นิชิโนะ ยอดกุนซือแห่งแดน อาทิตย์อุทัย ที่มีโปรไฟล์ระดับเคยคุมทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ ในบอลโลกปี 2018 ที่ รัสเซียมาแล้ว การเข้ามาของเขาในช่วงแรกดูเหมือนว่านี่จะเป็นการตัดสินใจที่มาถูกทางแล้ว เพราะด้วยบอลปรัชญาบอลของญี่ปุ่นในช่วงหลังๆจะมีอิทธิพลกับฟุตบอลไทยมากขึ้น แต่หลังจากที่มีสถานการณ์โรคระบาด โคหวิด-19 การทำงานของเขาก็ดูเหมือนจะยากขึ้นทั้งการคัดเลือกนักเตะเข้าสู่ทีม ทั้งเวลาเก็บตัว ดูเหมือนจะเป็นปัญหาไปซะหมด และผลลัพธ์มันก็มาตกในช่วง คัดบอลโลกเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ทีมชาติไทยทำผลงานได้แบบต่ำกว่ามาตรฐาน และสิ่งที่แฟนบอลเห็นคือผลงานในสนามของนักเตะในชุดนนั้นที่รู้สึกว่า นิชิโนะ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย ทั้งๆที่นักเตะแต่ล่ะคนในลีกก็มีฟอร์มการเล่นที่ดีในระดับสโมสร ถึงแม้ว่าในทัวร์นาเมนต์ขาดนักเตะตัวหลักจากลีกต่างประเทศ แต่ผลงานกับทีมในอาเซียน ที่อยู่กลุ่มเดียวกัน ผลการแข่งขันมันน่าผิดหวังเกินกว่าจะรับได้

ด้วยเหตุนี้จึงนำมาสู่การปลดตำแหน่งกุนซือของทีมชาติอย่างนิชิโนะออกไป แต่ถึงอย่างไรทีมชาติต้องเดินหน้าต่อไปเพราะยังมีภารกิจชิงแชมป์อาเซียนในช่วงปลายปีรออยู่ แต่จะมีสักกี่คนที่จะตอบรับงานเผือกร้อนงานนี้ ที่เหมือนกับเอาชื่อเสียงของตัวเองมาเสี่ยง ในสถานการณ์ที่ฟุตบอลไทยต้องการศรัทธาจากแฟนบอลคืนมาอีกครั้ง หลายๆสื่อต่างยิบยกสเปกของกุนซือทีมชาติไทยว่าต้องเป็นใครอย่างไงแบบไหนถึงจะนำพาฟุตบอลไทยกลับมาสู่เส้นทางอีกครั้ง

ทางด้านสมาคมฟุตบอลที่พึ่งแต่งตั้ง มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ขึ้นมานั่งแท่นผู้จัดการทีมชาติไทย และได้หารือร่วมกันว่าใครจะเหมาะสมที่สุดในตำแหน่งนี้ สุดท้ายก็เป็น มาโน่โพลกิ้ง อดีตกุนซือของแบงค็อกยูไนเต็ด
ทันทีที่ได้ประกาศแต่งตั้งกุนซือทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการ ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของกุนซือรายนี้ เพราะว่าเขาไม่เคยประสบความสำเร็จใดๆเลยตลอดการทำงานกับสโมสรในไทย

เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นการเริ่มต้นของทีมชาติไทยดูเหมือนจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆในแต่ล่ะนัดทั้งระบบการเล่นที่ไม่ได้มีเพียงแค่รูปแบบเดียว อีกทั้งผู้เล่นทุกคนที่ถูกเรียกติดทีมไปก็สามารถทดแทนกันได้เป็นอย่างดี มาโน่โพลกิ้ง มีแผนการเล่นที่ยืดหยุ่นยากที่จะคาดเดาได้ในแต่ล่ะนัด และอีก 1 สิ่งสำคัญของตัวเขาคือ การหล่อหลอมทุกคนในทีมให้เป็นอัน 1 อันเดียวกัน จากความคุ้นเคยที่เขามีกับนักเตะไทยมาอย่างยาวนานทำให้บรรยากาศในทีมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์เป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้จะมีอุปสรรคหลายอย่างก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ ทั้งระยะเวลาการเก็บตัว ปัญหาผู้เล่นถอนตัว แต่เขาได้สร้างทีมชาติไทยในแบบฉบับที่หลายๆยอดกุนซือยังทำได้ ด้วยการใช้ผู้เล่นครบทุกคนในรายการนี้ และการปราบคู่รักคู่แค้นอย่างเวียดนามได้อย่างราบคาบในรอบรองชนะเลิศเป็นสิ่งสะใจแฟนบอลไทยไม่ใช่น้อย ยังมีเหตุการณ์แอคชั่นต่างๆของตัวเขาในสนาม นั่นบ่งบอกได้ว่าเขาตั้งใจและทุ่มเทให้ทีมชาติไทยมากเพียงใดในทัวร์นาเมนต์นี่

ในรอบชิงชนะเลิศก็ยังระเบิดฟอร์มที่สุดยอดแบบไม่คาดคิดด้วยการถล่มอินโดนีเซียในเลกแรกด้วย สกอร์ 4-0 ก่อนที่ในเลกสอง จะเสมอกันด้วยสกอร์ 2-2 คว้าแชมป์อาเซียนสมัยที่ 6 แบบไร้พ่ายอีกครั้ง เราคงจะได้เห็นกันแล้วว่าตลอดการแข่งขันแต่ล่ะนัดของทีมชาติไทย ทั้งบรรดาสต๊าฟโค้ชทีมงานทุกคนรวมถึงนักเตะที่ส่งลงไปทุกคนล้วนแล้วแต่มีหัวจิตหัวใจที่อยากจะเอาแชมป์มาฝากคนไทยเป็นของขวัญปีใหม่ให้ได้เพื่อเป็นการเรียกศรัทธาจากแฟนฟุตบอลไทยกลับมา

บางคนอาจคิดว่าเราจะเป็นแบบลูปเดิมไหมที่มีดีแค่ในอาเซียนแต่พอไปเอเชียก็ยังสู้ใครไม่ได้ แต่ผมอยากให้มองแตกต่างออกไปว่าการเตรียมทีมครั้งนี้ของเรามีสิ่งที่เราไม่เคยได้เห็นมากมาย ทั้งการเก็บตัว และเหล่าแข้งดาวรุ่งหรือบรรดานักเตะที่พึ่งจะติดทีมชาติทุกคนล้วนแล้วแต่มีผลงานที่ดีพอที่จะเป็นอนาคตให้ทีมชาติได้ และการที่ได้มีผู้จัดการทีมที่ชื่อ นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้เปรียบเสมือนคนที่ทุ่มเททั้งแรงกายทั้งคุณทรัพย์เพื่อให้ทีมประสบความเร็จเอาแชมป์มาฝากคนไทยให้ได้ เธอคนนี้คืออีก1ตัวแปรที่ทำให้ทีมชาติไทยชุดนี้ขับเคลื่อนไปได้อย่างราบรื่นทั้งเรื่องในสนามและนอกสนาม และที่ขาดไม่ได้เลยคือกุนซืออย่าง มาโน่โพลกิ้ง ที่ได้สร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจและมีคาแรคเตอร์ที่ได้ใจคนไทยทั้งประเทศ

สุดท้ายนี้ผมเองก็ยังตอบไม่ได้ว่าผลงานของทีมชาติไทยในอนาคตจะก้าวต่อไปไกลกว่าที่เป็นหรือจะย่ำอยู่ที่เดิม แต่ถ้าหากเราทุกฝ่ายทั้งสโมสรเอง สมาคม ตั้งเป้าและจุดมุ่งหมายสูงสุดในทิศทางเดียวกันว่า จะทำให้ฟุตบอลไทยไปไกลถึงฟุตบอลโลก และจับมือร่วมกันเพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดกับทีมชาติไทย ผมเชื่อว่าเราจะพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นเรื่อยๆ จะสามารถต่อกรในระดับเอเชียและต่อยอดไปถึงสิ่งที่เราฝันไว้อย่างฟุตบอลโลกได้อย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นฟุตบอลไทยจะเป็นเหมือนกีฬามหาชนของคนไทยดั่งที่เป็นเหมือนกีฬามหาชนของคนทั้งโลก

ดูข่าวสารเพิ่มเติม ได้ที่ : Goalstorm


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ได้แล้วหัวหน้าปีศาจ

ศิลปินลูกหนังคนสุดท้าย อันเดรีย ปีร์โล่